เทคโนโลยี 5g คืออะไร ต่างจาก 4g อย่างไร
เทคโนโลยี

เทคโนโลยี 5g คืออะไร ต่างจาก 4g อย่างไร

เทคโนโลยี 5g เป็นระบบการสื่อสารที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากในปัจจุบัน โดยบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง AIS , Dtac , True ได้มีแผนรองรับในการใช้ล่วงหน้ามานานแล้ว คาดว่าคนไทยก็จะได้ใช้กันในปี 2019 นี้

แต่หลายคนก็ยังไม่ทราบว่า 5g คืออะไร และต่างจาก 4g ที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้อย่างไร เราจึงได้รวบรวมเอาไว้ที่นี่แล้ว ดังนี้

พัฒนาการของระบบเทคโนโลยีเครือข่าย

5g มีความแตกต่างจากเทคโนโลยี 1g ถึง 4 g ที่ผ่านมากล่าวคือ

– ยุค 1g เครื่องมือโทรศัพท์จะมีขนาดใหญ่ เป็นระบบการส่งสัญญาณแบบ analog ไม่สามารถจะส่งข้อความหากันได้

– ยุค 2g โทรศัพท์ขนาดเล็กลง มีการส่งข้อความ Message สั้น ๆ หากันได้

– ยุค 3g มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตดูวีดีโอคลิปต่าง ๆ ได้ด้วยความเร็วสูงขึ้นประมาณ 20 kbps จนถึง 42.2 Mbps

– ยุคปัจจุบัน คือ 4g ที่เราใช้ Application ต่าง ๆ ได้สะดวก ดูหนังและเล่นเกมส์ออนไลน์ได้ ด้วยความเร็วที่สูงถึง 100 Mbps ถึง 1,000 Mbps

– ยุค 5g ระบบส่งข้อมูลจะมีความเร็วสูงในการตอบสนองข้อมูลและใช้งานกับ IoTs หรือ Internet of Things ได้ดียิ่งขึ้น

ระบบเทคโนโลยีเครือข่าย 5g ต่างจาก 4g อย่างไร

1. ด้านความเร็ว

ถ้าเป็นระบบ 4G จะส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 20 ถึง 30 millisecond (มิลลิวินาที) แต่ว่าระบบ 5g จะเร็วขึ้น 10 เท่า คือใช้เวลาเพียงแค่ 3-4 milliseconds เท่านั้น

2. ด้านปริมาณการส่งข้อมูล

ระบบ 4G จะสามารถส่งข้อมูลได้ระดับมากที่สุด 7.2 Exabytes ในแต่ละเดือน ส่วนระบบ 5g จะเพิ่มปริมาณได้มากกว่าถึง 7 เท่า เป็นประมาณ 50 Exabytes จึงทำให้การทำธุรกิจออนไลน์การติดต่อประชุมสัมมนาทางออนไลน์ ไม่มีปัญหาเรื่องของสัญญาณขาดหาย

3. ด้านความถี่ในการใช้งาน

ระบบ 4G มีการส่งข้อมูลด้วยความถี่ 3 GHz แต่ระบบ 5g จะมากกว่าถึง 10 เท่า คือ 30 GHz

4. ความสามารถในการใช้งานต่อหน่วยพื้นที่

ระบบ 4G จะรองรับการใช้งานได้ 1 แสนคนต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร แต่ถ้าเป็นระบบ 5g จะรับได้ถึง 1 ล้านคน จึงไม่มีปัญหาการแย่งสัญญาณกันระหว่างผู้ใช้งานในเวลาเดียวกัน

5. การถ่ายโอนข้อมูล

เมื่อเทียบต่อหน่วยวินาที ระบบ 5g จะทำได้ถึง 20 GB เทียบเป็น 20 เท่าของระบบ 4G ที่จะส่งได้แค่ 1 GB ต่อวินาทีเท่านั้น

จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าระบบ 5g นั้น จะมีผลดีต่อผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ต ทำให้การดูหนัง ฟังเพลงเพื่อความบันเทิงมีความสนุกสนานเพลิดเพลินยิ่งขึ้น ไม่มีปัญหาสัญญาณตะกุกตะกัก

ส่วนในการทำธุรกิจซื้อขายออนไลน์ และการใช้งาน IoTs ก็จะได้รับความสะดวกมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มว่าจะเป็นที่แพร่หลายและนิยมมากยิ่งขึ้นในอนาคต