Blog

  • การดูแลผิวและกลิ่นใต้วงแขนของคุณ
    Blog

    การดูแลผิวและกลิ่นใต้วงแขนของคุณ

    การดูแลรักษาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ดีและการจัดการกลิ่นใต้วงแขนเป็นสิ่งสำคัญของสุขอนามัยส่วนบุคคล  ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว -ทำความสะอาดเป็นประจำ: ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนวันละสองครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ความมัน และสิ่งสกปรก -ขัดผิว: ใช้สครับขัดผิวอย่างอ่อนโยนหรือสารเคมีขัดผิว (เช่น สครับที่มีกรดอัลฟ่าไฮดรอกซีหรือกรดเบต้าไฮดรอกซี) สัปดาห์ละสองสามครั้งเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิว -ให้ความชุ่มชื้น: หลังจากทำความสะอาดผิวแล้ว ให้ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณเพื่อให้ผิวของคุณชุ่มชื้นและอ่อนนุ่ม -การป้องกันแสงแดด: ใช้ครีมกันแดดในวงกว้างที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าทุกวันเพื่อปกป้องผิวของคุณจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจนำไปสู่การแก่ก่อนวัยและความเสียหายของผิวหนัง -วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี: รับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งอุดมไปด้วยผักผลไม้และธัญพืช รักษาร่างกายให้ชุ่มชื้นด้วยการดื่มน้ำปริมาณมาก นอนหลับให้เพียงพอ และจัดการความเครียดเพื่อรักษาสุขภาพผิวโดยรวม กลิ่นใต้วงแขน -ความสะอาด: อาบน้ำเป็นประจำและล้างรักแร้ด้วยสบู่และน้ำเพื่อขจัดเหงื่อ แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกที่ก่อให้เกิดกลิ่น -ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ/ระงับกลิ่นกาย: ทาผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อหรือระงับกลิ่นกายที่ใต้วงแขนเพื่อช่วยควบคุมเหงื่อและกลบกลิ่น มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียมเพื่อลดเหงื่อออก และเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียเพื่อกำจัดกลิ่น -การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ: การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติบางอย่าง เช่น เบกกิ้งโซดา น้ำมะนาว หรือวิชฮาเซล สามารถช่วยระงับกลิ่นใต้วงแขนได้ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังวิธีการรักษาเหล่านี้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในบางคนได้ -การเลือกเสื้อผ้า: สวมผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้ายหรือวัสดุดูดซับความชื้น เพื่อช่วยให้ใต้วงแขนของคุณแห้งและลดกลิ่น -การกำจัดขน: การโกนหรือเล็มขนใต้วงแขนสามารถช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและลดกลิ่นได้ -ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ: หากคุณมีเหงื่อออกมากเกินไป (เหงื่อออกมากเกินไป) หรือมีกลิ่นใต้วงแขนอย่างต่อเนื่องแม้จะพยายามรักษาด้วยวิธีต่างๆ ก็ตาม ให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการประเมินและทางเลือกการรักษาเพิ่มเติม การผสมผสานเคล็ดลับเหล่านี้เข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณ คุณสามารถรักษาสุขภาพผิวและจัดการกลิ่นใต้วงแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    Comments Off on การดูแลผิวและกลิ่นใต้วงแขนของคุณ
  • การทำน้ำพริกอ่องอาหารสไตล์ล้านนนาของภาคเหนือ
    Blog

    การทำน้ำพริกอ่องอาหารสไตล์ล้านนนาของภาคเหนือ

    น้ำพริกอ่องเป็นน้ำพริกที่อร่อยและมีรสชาติที่มีต้นกำเนิดจากภาคเหนือของประเทศไทยหรือที่เรียกว่าอาหารล้านนา ที่ประกอบด้วยหมูบดปรุงกับมะเขือเทศ พริก และเครื่องเทศเป็นหลัก สูตรพื้นฐานในการทำน้ำพริกอ่องอาจจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ วัตถุดิบ หมูบด 300 กรัม มะเขือเทศสุก 5-6 ลูก สับละเอียด พริกขี้หนูสับ 5-6 เม็ด (ปรับตามความชอบเครื่องเทศ) กระเทียม 4-5 กลีบสับละเอียด หอมแดง 2 หัวสับละเอียด กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีกะปิก็ใช้แทนได้) น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำ 1/2 ถ้วย ใบผักชีสำหรับตกแต่ง เตรียมส่วนผสม -สับมะเขือเทศ พริก กระเทียม และหอมแดง หากใช้กะปิให้เตรียมไว้ การทำอาหาร -ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง -ใส่กระเทียมสับและหอมแดงสับ ผัดจนมีกลิ่นหอม -เพิ่มหมูบดลงในกระทะ แตกเป็นชิ้นแล้วปรุงจนไม่เป็นสีชมพูอีกต่อไป -ใส่กะปิ (หรือน้ำปลา) แล้วผัดต่ออีกนาที -เพิ่มมะเขือเทศสับและพริกลงในกระทะ คนให้เข้ากัน -ปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือ ผสมให้เข้ากัน -เทลงในน้ำ คนและปล่อยให้เดือดประมาณ 10-15 นาที หรือจนกว่าซอสจะข้น ลิ้มรสและปรับรสหากจำเป็น แนะนำ ตักน้ำพริกอ่องใส่จานพร้อมเสิร์ฟ ประดับด้วยใบผักชีสด โดยทั่วไปน้ำพริกอ่องจะเสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี หรือถั่วฝักยาว และข้าวสวย สามารถปรับความเผ็ดและเครื่องปรุงรสได้ตามต้องการ เพลิดเพลินไปกับน้ำพริกอ่องของคุณ

    Comments Off on การทำน้ำพริกอ่องอาหารสไตล์ล้านนนาของภาคเหนือ
  • อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง
    Blog

    อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง

    ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรระมัดระวังในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม แม้ว่าจะไม่มีรายการอาหารที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรหลีกเลี่ยงโดยสิ้นเชิง แต่ก็มีอาหารและแนวทางปฏิบัติด้านโภชนาการบางอย่างที่พวกเขาอาจต้องการจำกัดหรือหลีกเลี่ยงโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นหรือแทรกแซงการรักษา อย่างเช่น เนื้อสัตว์แปรรูป: เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น เบคอน ฮอทดอก และเนื้อสำเร็จรูป มักจะมีสารเติมแต่งและสารกันบูดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีโซเดียมและไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล: การบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและมีอาการอักเสบ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลยังให้แคลอรี่ที่ว่างเปล่าและมีคุณค่าทางโภชนาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย อาหารทอดและอาหารจานด่วน: ควรจำกัดอาหารที่มีไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพสูง เช่น อาหารทอดและอาหารจานด่วน อาหารเหล่านี้สามารถเพิ่มการอักเสบในร่างกายและอาจส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งมักไม่เป็นที่พึงปรารถนาในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง แอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์เชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งอาจต้องการหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ในระหว่างการรักษาเพื่อสุขภาพโดยรวมของตนเอง เนื้อแดงมากเกินไป: แม้ว่าเนื้อแดงไม่ติดมันอาจเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุล แต่การบริโภคเนื้อแดงในปริมาณที่มากเกินไป โดยเฉพาะเนื้อแปรรูปหรือย่างถ่าน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งบางชนิดได้ ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรตั้งเป้าที่จะรวมแหล่งโปรตีนที่หลากหลายไว้ในอาหารของพวกเขา เช่น สัตว์ปีก ปลา ถั่ว และพืชตระกูลถั่ว อาหารที่มีรสเค็มสูง: ควรจำกัดอาหารที่มีเกลือหรือโซเดียมสูง เนื่องจากการบริโภคเกลือมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิด และส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง สารให้ความหวานเทียม: การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่าสารให้ความหวานเทียมอาจมีผลในการก่อมะเร็งหรือขัดขวางจุลินทรีย์ในลำไส้ แม้ว่าจะจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบต่อความเสี่ยงของโรคมะเร็งอย่างถ่องแท้ ผู้ป่วยโรคมะเร็งอาจต้องการเลือกใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติในปริมาณที่พอเหมาะ เช่น น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล ผู้ป่วยโรคมะเร็งจำเป็นต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมดูแลสุขภาพและนักโภชนาการที่ลงทะเบียนเพื่อพัฒนาแผนโภชนาการส่วนบุคคลที่ตรงกับความต้องการส่วนบุคคลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมในระหว่างการรักษาและการฟื้นตัว

    Comments Off on อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง
  • Yorn ตัวละคร Rov เก่งแต่ถูกมองข้าม
    Blog

    Yorn ตัวละคร Rov เก่งแต่ถูกมองข้าม

    Yorn ถือเป็นตัวละคร Rov ที่ได้รับความนิยมมากในช่วงหนึ่ง ฮีโร่แครี่ที่บอกได้เลยว่าป้อมระเบิดอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของสกิลนั้นเอื้อไปในทิศทางดันป้อมมาก ๆ และบวกกับความเร็วในการโจมตีแถมพลังสูงอีกด้วย แต่พักหลังนั้นคนไม่นิยมเลือกมาเล่นในการลง Rank นั้นคงเป็นเพราะสกิลไม่ตอบโจทย์เรื่องการเอาตัวรอดเลย นอกจากสกิลชาเลนจ์ที่มีแค่ Flicker ก็พอจะช่วยได้บ้าง แต่ส่วนมากถ้าโดนล้วงแล้วนั้นยากที่จะรอด ถ้าพวกไฟต์เตอร์ไม่คอยดูแล แครี่ก็ไม่สามารถทำดาเมจได้ อีกทั้งยังทำให้ต้องเสียพวกไฟต์เตอร์เพราะต้องคอยดูแล แทนที่จะได้ล้วงฝั่งตรงข้ามแทนทำให้เสียทรัพยากรไปฟรี ๆ จุดนี้จึงทำให้คนนิยมหันไปเลือกเล่นตัวอื่นแทนและนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เกมเมอร์ทั้งหลายไม่นิยมเลือกมาเล่นนั้นเอง Valhein สายโจมตีเรียกศักดิ์ศรีให้ทีมได้ชัยชนะไม่ยาก Valhein สำหรับฮีโร่ตัวนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นฮีโร่ยอดฮิตของเพลเยอร์หลาย ๆ คน เรียกได้ว่าเกือบครบเครื่อง แต่อย่างไรก็ตามอยู่ที่สเต็ปของผู้เล่นอีกทีว่าจะดึงศักยภาพของแวนออกมาได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสำหรับตัวนี้มีความเร็วในการโจมตีสูงมากแถมมีสกิลสตั้นไว้เวลาโดนล้วง ทำให้มีโอกาสหนีออกมาได้ พักหลังเกมเมอร์นิยมนำมาเล่นสายโจมตีกันเป็นส่วนมาก แต่ที่ไม่นิยมนำมาลง Rank ไม่ทราบด้วยสาเหตุใด แต่หากให้เดาคงเพราะความเบื่อ แต่เมื่อมาพิจารณาอีกทีตัวละครตัวนี้มีสเต็ปที่ดีสามารถคิวได้ง่าย ๆ ฉะนั้นหากเคยได้ยินคนที่เล่นเกมด้วยกันแอบสบประมาทตัวละครนี้ว่าอ่อน ขอบอกเลยว่าคน ๆ นั้นกำลังคิดผิด เพราะปัจจัยมันมีหลายอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับสกิลของฮีโร่เท่านั้น ทีมและผู้เล่นก็มีผลเช่นกัน  ยก Krixi ให้เป็นนักฆ่าสาวของทีม Krixi  เป็นฮีโร่สายเมจตัวละคร Rov ผู้หญิงที่เปิดให้เลือกเล่นในช่วงแรก ๆ  ซึ่งในช่วงนั้นเองตัวนี้อาจจะดูเหมือนเมจธรรมดา ๆ ตัวหนึ่งแต่ความจริงนั้นสกิลของเธอแรงมาก ๆ สามารถไล่ฆ่าได้ตั้งแต่เวล 2 แต่ก็ต้องตกอันดับไปเพราะปัจจุบันนั้นมีฮีโร่ที่เข้ามาใหม่มากมายทำให้คนเริ่มไม่นิยมเล่นกันแล้ว เพราะคิดว่ายังมีตัวอื่นที่ดีกว่านี้ จึงไม่นำมาลง Rank แต่ด้วยความโหดอยู่ในสายเลือดของเธออยู่แล้วก็ยังคงสามารถสร้างจังหวะให้เพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี มักถูกเลือกให้เป็นตัวฆ่า นอกจากนี้สาเหตุที่เธอไม่ถูกเลือกเพราะอาจพลังป้องกันนั้นน้อยมาก ๆ และเลือดน้อย แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เล่นและทีมด้วยว่าจะวางให้เธออยู่ในตำแหน่งใด  ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามทุกตัวละครอยู่ที่ตัวผู้เล่นด้วยว่าจะมีทักษะมากน้อยแค่ไหนนั้นเอง

    Comments Off on Yorn ตัวละคร Rov เก่งแต่ถูกมองข้าม
  • สุขเพราะคุยกับความเงียบ
    Blog,  Uncategorized,  ทั่วไป

    สุขเพราะคุยกับความเงียบ

    คนเรามักมีทัศนคติเชิงลบกับความเงียบ ทำให้เวลาส่วนใหญ่ของการใช้ชีวิตโลดแล่นอยู่ท่ามกลางสิ่งเร้ารอบตัวที่จะพาให้เราหลุดออกจากความเงียบโดยเฉพาะสารพันเรื่องราวที่ส่งผ่านมือถือล้วนแล้วแต่เป็นตัวพรากความเงียบไปจากเราอย่างไร้ขีดจำกัด ความเป็นไปแบบนั้นส่งผลกระทบมากมายต่อการดำเนินชีวิตโดยที่เราไม่รู้ตัว การอยู่กับความเงียบไม่ได้หมายความว่าเรากำลังเผชิญกับความเหงา ในทุก ๆ วันที่เราเต้นตามสิ่งเร้าภายนอกทำให้เราเกิดความอยากไม่รู้จักจบสิ้น ยิ่งอยากมากก็ต้องพยายามลงมือไปไขว่คว้าเอามาอย่างเต็มกำลัง พุ่งไปข้างหน้า และโฟกัสในสิ่งที่เป็นเป้าหมายนั้นอย่างมุ่งมั่นโดยไม่ได้สนใจรายละเอียดระหว่างทาง ยิ่งอยากวิ่งหนีห่างจากตัวเอง เราจะหูดับ ตาบอดกับทุกเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่จะทำให้เราได้มาซึ่งสิ่งที่อยากได้นั้น และเมื่อเราได้มันมาดั่งใจแล้วก็จะยินดีพอใจกับมันได้สักพัก จากนั้นเราจะวิ่งวุ่น ทะยานอยากกับสิ่งเร้าอื่นต่อไป วนไปแบบนี้ร่ำไปไม่จบสิ้น นั่นเพราะเราไม่เคยอนุญาตให้ตัวเองได้ทำความรู้จักกับความมหัศจรรย์ของความเงียบเลย ในช่วงที่ความวุ่นวายเดินทางไปถึงขีดสุด ลองดูสักวันที่จะหันหลังให้กับมือถือ และวิถีความเคยชินเดิมๆ เริ่มจากเคลียร์ตัวเองจากการงานให้เรียบร้อย แล้วออกเดินทางไปไหนสักแห่งที่ห่างผู้คนและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่แห่งนั้นขอให้ปลอดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไม่มีไฟฟ้าใช้ หากจะต้องเจอใครข้างหน้าขอให้เป็นคนที่เราไม่รู้จักและเจอเท่าที่จำเป็นเท่านั้นโดยให้มีระยะเวลานานพอสมควร เช่น 7 วันขึ้นไป เราจะพาตัวเองไปทำความรู้จักกับความเงียบ หยุดต้อนรับสิ่งเร้าที่คนอื่นยัดเยียดมาให้เรา หยุดวิ่งตามความต้องการของคนอื่นสักพัก เมื่อไม่มีตัวกระตุ้นความสนใจทั้งหมดจะพุ่งกลับมาที่ตัวเอง ได้สังเกตลมหายใจ ได้สำรวจความรู้สึกนึกคิดที่เป็นของตัวเราแท้ ๆ แรก ๆจะรู้สึกว้าวุ่น หงุดหงิดงุ่นง่านที่ไม่สามารถทำในสิ่งที่เคยชินแต่เดิมได้ สักพักใจและกายเราจะค่อย ๆ นิ่ง เริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเอง อย่ากลัวความเงียบ อย่ากลัวที่จะหยุด และอยู่กับตัวเอง ความเงียบไม่ใช่ขุมนรกแต่คือสรวงสวรรค์ที่รอการไปถึงไม่ว่าคุณมีภารกิจเยอะมากแค่ไหน หรือแม้ว่าคุณจะขาดสังคมไม่ได้ ก็อยากให้กล้าหาญที่จะพาตัวเองออกมากักตัวพูดคุยกับความเงียบสักครั้ง การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้คุยกับความเงียบอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เกิดสมดุลในการใช้ชีวิต เราจะมีความสุขมากขึ้น สุขที่รู้จักตัวเอง สุขที่ได้ใช้ชีวิตตามที่หัวใจเรียกร้องอย่างแท้จริง

    Comments Off on สุขเพราะคุยกับความเงียบ
  • ประวัติหวยไทย
    Blog

    ประวัติหวย ก่อนเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล

    พูดถึงหวยหลายคนคงเลือกที่จะจับจ้องดูใบฉลากกินแบ่งรัฐบาลว่างวดนี้เราจะรางวัลอะไร ซึ่งในบทความนี้เราจะไม่กล่าวถึงวิธีการหรือเคล็ดลับในการวิเคราะห์ตัวเลขใด ๆ แต่เราจะมาบอกถึงเรื่องราวที่น่าสนใจและประวัติความเป็นมาของหวยก่อนที่จะมาเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลว่ามีความเป็นมาอย่างไร ความหมายดั้งเดิมของคำว่าหวย – เดิมคำว่าหวยเป็นคำที่มีพื้นฐานมาจากภาษาจีนคำว่าคือคำว่า ฮวยหวย มีความหมายว่าชุมนุมดอกไม้ ซึ่งในยุคโบราณคำว่าหวย เขียนเป็นรูปดอกไม้เพื่อนำไปใช้ในงานต่าง ๆ ทว่าภายหลังคำว่าหวยเปลี่ยนและดัดแปลงมาใช้กับชื่อคนมากยิ่งขึ้น ความเป็นมา และการกำเนิดหวย – มีบทบาทในช่วงสมัยของรัชกาลที่ 3 ในยุคนั้นเป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง ประชาชนส่วนใหญ่จึงนำเงินที่หามาได้ใส่ไห่และฝังดินไว้ ด้วยเหตุนี้เงินภายในประเทศจึงค่อย ๆ หายไป รัชกาลที่ 3 จึงหาวิธีให้ประชาชนกล้าใช้จ่ายเงิน จีนหง หรือ เจ๊สัวหง ชาวจีนจึงแนะนำวิธีการเล่นหวยให้กับ รัชกาลที่ 3 เพื่อใช้รับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ หวย ก ข – ในปี 2376 เป็นปีแรกที่รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดให้ จีนหง ออกหวยเพื่อจัดจำหน่ายเป็นครั้งแรก ซึ่งหวยที่เกิดขึ้นในเมืองจีนใช้แผ่นป้ายวาดตัวอักษรจีนเพื่อสมมติเป็นตัวเลขหวย จีนหง จึงปรับเปลี่ยนป้ายหวยเป็นตัวอักษรไทแทน ซึ่งใช้ตัวอักษร ก ข ค เรียงไปตามลำดับ โดยตัดตัวอักษร ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ศ ษ ออก ด้วยเหตุนี้คนไทยจึงเรียกว่าหวย ก ข หวย เคยถูกสั่งให้เป็นกิจกรรมต้องห้าม ใน รัชกาลที่ 5 – ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 มีช่วงหนึ่งที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้ลดการใช้อากรหวยลง ทว่าด้วยเหตุที่ในช่วงนั้นหวยเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สร้างรายได้หมุนเวียนให้กับประเทศค่อนข้างมาก พระองค์จึงเกรงว่าเศรษฐกิจภายในประเทศอาจมีผลกระทบ เทียบเหมือนสมัยนี้ที่นักทายผลบอลสดบ้านเราต้องไปเล่นผ่านบ่อนต่างประเทศ สาเหตุจากในไทยยังไม่รองรับการพนันบอล พระองค์จึงเปลี่ยนวิธีเป็นค่อย ๆ ลดอากรหวยลง จนกระทั่งเลิกอากรหวย ก ข ได้อย่างเด็ดขาดได้ในช่วงรัชกาลที่ 6 ที่มาของคำว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล – ลอตเตอรี่หรือหวยเบอร์ในสมัยก่อนนั้นจะออกเป็นครั้งคราวตามความจำเป็นของการนำเงินไปใช้ในงานราชการเท่านั้น ด้วยเหตุนี้หลังจากหวยเข้ามามีบทบาทภายในประเทศไทย จึงนำมาซึ่งรายได้ที่ช่วยให้งบประมาณแผ่นดินสามารถหมุนเวียนได้ดีมากยิ่งขึ้น หวยจึงถูกเรียกว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อสื่อถึงฉลากที่ช่วยนำเงินมาสร้างและพัฒนาประเทศนั่นเอง ปัจจุบันหวยเป็นหนึ่งในกิจกรรมและเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยเหตุที่หวยสามารถเชื่อมโยงเข้ากับความเชื่อและศาสตร์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้การเล่นหวยก็ไม่สามารถทำให้ใครร่ำรวยได้ตลอดไป เราจึงจำเป็นต้องใช้วิจารณญาณทุกครั้งก่อนตัดสินใจเล่นหวย

    Comments Off on ประวัติหวย ก่อนเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล
  • เคล็ดลับทำให้ผิวขาวใสง่ายๆ ด้วยสูตรธรรมชาติที่ปลอดภัย
    Blog,  สุขภาพ

    เคล็ดลับทำให้ผิวขาวใสง่ายๆ ด้วยสูตรธรรมชาติที่ปลอดภัย

    สาวๆหลายคนมักจะหลงใหลในผิวพรรณของตัวเอง ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะใครๆก็อยากจะมีผิวพรรณที่ขาวแบบธรรมชาติ เพราะเป็นจุดเด่นของร่างกายและช่วยทำให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นได้อีกด้วย ในยุคสมัยนี้หลายๆคนหันไปพึ่งหมอศัลยกรรมกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะได้ผลไวและไม่เจ็บตัวอย่างที่คิด แต่อย่างไรก็ตามสารเคมีที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติจะส่งผลเสียกับร่างกายคนเราได้เสมอ ต่อให้เป็นกลูต้าสูตรพิเศษ หรือวิตามินบำรุงผิวตามคลินิคต่างๆ ทุกคลินิคก็ต้องโฆษณาเกินความเป็นจริงอยู่แล้ว สังเกตได้จากการรีวิวผ่านโซเชียลต่างๆ บางคนก็มีผิวขาวใสขึ้นจริง บางคนก็ไม่ได้ขาวขึ้นหรืออาจจะไม่เห็นผลเลย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่ายกายคนเรา ดังนั้นจะดีกว่าไหมหากเราเลือกผิวขาวใสด้วยวิธีธรรมชาติ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาและเหนื่อยหน่อย แต่ได้ผิวธรรมชาติก็ถือว่าคุ้มเหมือนกัน ดั่งคำคมที่กล่าวว่า “อยากสวยต้องอดทน” วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับดีๆ ที่ทำให้ผิวขาวในแบบธรรมชาติ สูตรเร่งผิวขาวแบบธรรมชาติ สูตรที่ 1 : มะขาม + น้ำผึ้ง + นมสด เหมาะสำหรับคนที่อยากมีผิวกระจ่างใส ซึ่งจากการรีวิวจริงได้ผลมากกว่า 90% แต่ควรหมั่นทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน สูตรสครับผิวขาวถือว่าเป็นสูตรพื้นฐานของการสครับผิวเพื่อผิวขาวอันดับต้นๆที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเลยก็ว่าได้ ขั้นตอนการทำ : นำมะขามเปียกมาผสมกับน้ำอุ่น และทำการปั่นให้เหลือกากใยไว้ขัดผิวได้ และผสมน้ำผึ้งกับนมลงไป คนให้เข้ากัน และเมื่อขัดผิว แนะนำให้ขัดถูเป็นวงกลม พอกทิ้งไว้ 5-10 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที สูตรที่ 2 : ข้าวโอ๊ต + มะเขือเทศ + น้ำผึ้ง ช่วยผลัดเซลล์ผลิวเก่าออก ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสแบบอ่อนโยน เหมาะสำหรับคนที่ผิวแห้งกร้าน บอบบางแพ้ง่าย ถือว่าสูตรสครับผิวอันนี้ตอบโจทย์มากที่สุดๆ และควรทำอย่างต่ำอาทิตย์ละ 4 วันขึ้นไป เพราะสูตรไม่ได้ทำให้ผิวบาดเจ็บ สามารถถูทั่วตัวได้ ขั้นตอนการทำ : นำมะเขือเทศมาบดให้ละเอียด ไม่จำเป็นต้องเอาเม็ดออก แล้วแต่คนชอบ เสร็จแล้วนำไปผสมกับข้าวโอ๊ตและน้ำผึ้งคนให้เข้ากัน หลังจากนั้นให้ขัดวนทั่วร่างกาย แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรที่ 3 : น้ำตาลทรายแดง + น้ำมะนาว + โยเกิร์ต เป็นสูตรใหม่ที่พึ่งคลอดมาหมาดๆ และเป็นที่นิยมในปัจจุบันมาก ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งเดือนก็เผยผิวกระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกได้ไวกว่าสูตรอื่นๆ และไม่บาดผิวอีกด้วย สูตรนี้ถ้าทำได้ทุกวันยิ่งดี เพราะส่วนผสมจะช่วยกันรักษาผิวให้ใสขาวนุ่มมากขึ้น ขั้นตอนการทำ : นำน้ำตาลทรายแดง + มะนาว และโยเกิร์ตผสมให้เข้ากัน จากนั้นค่อยสครับวนที่ผิวเป็นวงกลมอย่างเบามือ อย่าขัดเด็ดขาดเพราะจะทำให้เกิดบาดแผลและแสบตามร่างกายได้ ถูค่อยๆจนน้ำตาลทรายแดงละลาย แล้วทิ้งไว้ประมาณ 7-10 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรสครับผิวที่ได้กล่าวไปข้างต้นนี้ สามารถหาได้จากตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือท้องตลาดทั่วไป ซึ่งก็เป็นสูตรที่สามารถรักษาผิวให้ขาวใสดั่งธรรมชาติได้ และเห็นผลไวอีกด้วย…

    Comments Off on เคล็ดลับทำให้ผิวขาวใสง่ายๆ ด้วยสูตรธรรมชาติที่ปลอดภัย