ในชีวิตคนทุกคนต้องมีเป้าหมายที่อยากให้สำเร็จอยู่อย่างแน่นอน แต่รู้ไหมว่าคนที่สามารถทำตามเป้าหมายเหล่านั้นได้จริงมีจำนวนไม่มากเลย ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงที่พวกเขาล้มเหลวไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพราะความไม่แน่วแน่ต่างหากที่ทำให้ฝันของพวกเขาไม่เป็นจริง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปเรียนรู้เทนนิคการตั้งเป้าหมายเพื่อให้สามารถทำได้สำเร็จไวขึ้นไปด้วยกัน หลายคนฝันถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จึงทำให้รู้สึกท้อแท้ใจเพราะถึงจะลงมือทำเต็มที่แค่ไหนก็ไปไม่ถึงที่ใจต้องการซักที ดังนั้นก่อนจะตั้งเป้าหมายให้ลองพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ที่มี มองหาทั้งจุดเด่นทั้งความชอบ และพยายามพัฒนาสิ่งเหล่านั้นเพื่อนำมาเป็นจุดแข็งให้กับการทำตามความฝันของตัวเอง การตั้งความฝันที่เป็นไปได้แน่นอนอยู่แล้วจะทำให้ไม่เกิดความกระตือรือร้นที่จะก้าวไปข้างหน้า เพราะรู้สึกว่าถึงไม่พยายามอะไรก็สามารถทำตามเป้าหมายได้แน่นอน ส่วนการฝันถึงเรื่องที่ใหญ่จะทำให้มีแรงบันดาลใจมากขึ้น เพราะได้ทำเรื่องที่ท้าทายและเปิดโอกาสให้พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นตามเป้าหมายที่ต้องการ  หลังจากตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว ให้พยายามวางแผนย่อยเป้าหมายนั้นให้เล็กลง เพื่อให้สามารถทำสำเร็จได้ง่ายขึ้น จะได้มีกำลังใจว่ากำลังก้าวเข้าไปใกล้เป้าหมายมากขึ้นในทุก ๆ วัน หลังจากนั้นให้พยายามทำตามแผนที่วางไว้ไปเรื่อย ๆ ตามขั้นตอน โดยพยายามทุ่มเทใส่ใจให้เวลากับสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่อง การทำอะไรไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีเส้นตาย จะทำให้เบื่อหน่ายและทำสิ่งนั้นอย่างเรื่อยเปื่อยจนเกินไป ทำให้มีโอกาสที่จะล้าช้าจากการผลัดวันประกันพรุ่งได้มาก วิธีการแก้ปัญหานี้คือการตั้งกรอบเวลาในการทำขั้นตอนต่าง ๆ อย่างชัดเจน ทำให้มีเส้นตายเพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน และต้องเคารพสิ่งที่เรากำหนดมาอย่างเข้มงวด เพียงเท่านี้สิ่งที่กำลังทำอยู่จะมีความก้าวหน้าอย่างแน่นอน ระหว่างทางต้องมีการหยุดพัก จึงจะมีแรงก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง แล้วจะมีอะไรดีกว่าการมอบรางวัลให้กับตัวเองเวลาบรรลุสิ่งที่ต้องการในแต่ละขั้นตอน ลองมองหารางวัลที่อยากได้และใช้มันเป็นแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสรรค์ความสำเร็จ จะทำให้งานที่ต้องทำสำเร็จได้ไวกว่าที่คาดไว้อย่างแน่นอน จะเห็นว่าเทคนิคการตั้งเป้าหมายที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยซักนิด เพียงแค่ทุกคนทำตามขั้นตอนทั้ง 5 ข้อ ไม่ว่าเป้าหมายจะใหญ่แค่ไหนก็สามารถทำได้สำเร็จได้อย่างไม่ยากเย็น ขอเพียงแค่มีความตั้งใจ เชื่อใจในแผนการของตนเอง และพยายามลงมือทำทันทีอย่างมุ่งมั่น ทุกคนจะสามารถสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ออกมาได้อย่างในที่สุด

เรื่องศาสตร์ตัวเลขเป็นสิ่งที่หลายคนเชื่อว่าหากทำตามแล้วจะส่งเสริมให้พบเจอแต่เรื่องดี ๆ อาทิ การเงิน การงาน ความรักและโชคลาภ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนาและตัวเลขหลายตัวก็ส่งผลดีหลายด้าน อยู่ที่ว่าจะเหมาะกับดวงชะตาของผู้นั้นหรือไม่ ไปดูกันว่า 12 ราศี มีตัวเลขไหนบ้างที่เหมาะและหากอยู่ท้ายเบอร์มือถือควรเป็นตัวเลขไหน  ราศีเมษ 14 เม.ย.-14 พ.ค. เลข 5 ต้องเป็นคู่เลข 51 15 เชื่อว่าจะมาเสริมเรื่องการงาน เลื่อนตำแหน่ง แต่หากอยากได้ตัวเลขที่เสริมได้แทบทุกเรื่องจะต้องเป็นคู่เลข 56 65 เสริมในเรื่องการเงิน ความรัก  เสริมมงคลเลขท้ายเบอร์มือถือ : 7, 8 และ 9 ราศีพฤษภ 15 พ.ค.-14 มิ.ย. เลข 6 เป็นตัวเลขที่จะมาส่งเสริมในเรื่องของการงาน ชื่อเสียงและความรัก โดยจะต้องเป็นคู่เลข 61 16 ทำให้พบความสุขและ 65 56 เป็นตัวเลขเสริมเรื่องการงาน การเงินจะทำให้พบความมั่นคง เสริมมงคลเลขท้ายเบอร์มือถือ : 5, 6 และ 9 ราศีเมถุน 15 มิ.ย.-16 ก.ค.  เลข 4 เป็นตัวเลขที่จะมาหนุนดวงในเรื่องของการพูดคุยเจรจา ติดต่อสื่อสารเรื่องงาน ในส่วนเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ครีเอทีฟจะต้องเป็นเลข 14 41 นอกจากนี้ยังมีตัวเลขส่งผลดีในเรื่องของการเจรจา เกียรติยศนั้นคือ 42 24 พร้อมกับเสริมในเรื่องมิตร ความสำเร็จและความรัก เสริมมงคลเลขท้ายเบอร์มือถือ : 1, 2 และ 6 ราศีกรกฎ 17 ก.ค.-16 ส.ค. เลข 2 เป็นตัวเลขที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดความราบรื่น ได้รับความช่วยเหลือเมตตา ถัดมาเป็นเลข 24 42 เสริมในเรื่องความเจริญรุ่งเรือง เติบโต 26 62 เสริมในเรื่องความรักและเพิ่มความมั่นใจในการทำทุกเรื่อง เสริมมงคลเลขท้ายเบอร์มือถือ : 2, 3 และ 9 ราศีสิงห์ 17 ส.ค.-16 ก.ย. เลข 1 เป็นตัวเลขแทนความสว่างและความสำเร็จ 14…

คนส่วนใหญ่ใช้เวลาหนึ่งในสามของชีวิตแต่ละวันในที่ทำงาน ถ้าบรรยากาศในการทำงานดี เพื่อร่วมงานน่ารัก ชีวิตการทำงานจะราบรื่นและมีความสุข แต่ถ้าออฟฟิศของเราเต็มไปด้วยปัญหาไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว การจะหลีกเลี่ยงความเครียด ความปวดหัวคงทำได้ยาก อย่างไรตามแนวทางการจัดการปัญหาในออฟฟิศอย่างมีประสิทธิภาพนั้นยังมีอยู่ โดยมี 5 วิธีรับมือมาแนะนำในวันนี้ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา ต้องรู้จักระบุสาเหตุของปัญหาและพยายามแก้ไขจากจุดเริ่มต้นของเรื่อง การรู้สาเหตุของปัญหาจะทำให้เกิดความเข้าใจถึงลักษณะและรายละเอียดของปัญหา อาจจะต้องมีการระดมความคิดของผู้คนในสังคมเพื่อหาสาเหตุของปัญหาจากหลาย ๆ มุมมอง คนมีแนวโน้มจะเกิดความเข้าใจผิดต่อการกระทำและคำพูดของผู้อื่นและตีความไปในทางลบ จึงทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในเหล่าพนักงานที่ต้องมาทำกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่เดียวกันได้ ทุกคนควรมองว่าการเกิดปัญหาเป็นเรื่องธรรมดาและเปิดใจฟังมุมมองของปัญหาในด้านอื่น ๆ จะทำให้เกิดการรับรู้และความเข้าใจที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันทุกคนควรพูดอย่างตรงไปตรงมาและตรงประเด็น สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและลดปัญหาต่าง ๆ ลงได้ กฎของบริษัทเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาเพื่อควบคุมพฤติกรรมในสังคมของคนที่อยู่รวมกันในที่ทำงาน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับกฎเหล่านั้นและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่ถ้าเจอใครที่ไม่ทำตามกฎและจงใจละเมิดข้อตกลงของส่วนรวม ผู้พบเห็นต้องหาทางแจ้งเตือนให้มีการปรับปรุง หากปัญหาเกิดขึ้นจากความหละหลวมของกฎระเบียบที่ถูกตั้งขึ้น การเพิ่มข้อตกลงเพื่อจัดการกับปัญหาเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรับมือกับปัญหาเหล่านี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นมาอีกในอนาคต โดยต้องแจ้งกฎระเบียบใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมาให้ทุกคนรับรู้โดยทั่วกัน และต้องมีการประเมินหลังจากข้อตกลงใหม่ถูกประกาศใช้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ บางครั้งต้องยอมรับว่าปัญหาเกิดขึ้นจากตัวเอง ดังนั้นจงท่องเอาไว้เสมอว่าสังคมที่สงบสุขเริ่มต้นขึ้นได้ด้วยมือเรา อย่าพยายามสร้างความขัดแย้งในสังคมด้วยการตั้งตัวเป็นศัตรูกับใคร แต่จงพยายามรักษาบรรยากาศที่ดีในที่ทำงานเอาไว้ และพยายามมองโลกในแง่ดี อย่ามองการกระทำของผู้อื่นในแง่ลบ จะช่วยทำให้จิตใจ จะเห็นว่าการเกิดความขัดแย้งในที่ทำงานเป็นเรื่องปกติและสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสังคม ดังนั้นพนักงานควรรู้จักเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหา ลงมือทำสิ่งที่ทำได้เอง หากสิ่งไหนใหญ่เกินกว่าที่จะจัดการด้วยตัวเอง ต้องส่งต่อและขอให้ทางองค์กรลงมือแก้ปัญหา ด้วยวิธีการเหล่านี้ บรรยากาศที่ดีในการทำงานจึงสามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นใครที่กำลังปวดหัวกับปัญหาในออฟฟิศ ลองนำวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้นของตนเอง

คุณก็เคยใช่ไหม? รื้อบ้านจัดบ้านใหม่ทีไรมักจะเจอสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของเล่น เสื้อผ้าอาภรณ์ รวมไปถึงหนังสือจำนวนมากที่ไม่ได้ใช้งานอีกแล้ว จะเอาไปทิ้งเป็นขยะก็รู้สึกเสียดายเพราะหลายชิ้นยังใช้งานได้ดี หรือบางชิ้นก็ยังใหม่อยู่เพราะตั้งแต่ซื้อมายังไม่ได้ใช้งานเลย แต่จะเก็บเอาไว้ก็ขัดใจเพราะไม่มีที่จะเก็บ แล้วจะทำอย่างไรดีละทีนี้ ไม่ต้องกังวลไปสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการให้และแบ่งปัน ยังมีผู้คนอีกมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ๆ และเยาวชนที่ด้อยโอกาสในพื้นที่ทุรกันดาร สิ่งของต่าง ๆ ที่คุณรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์กับคุณอีกต่อไปแล้ว อาจเป็นสิ่งของจำเป็นกับชีวิตผู้คนและเด็ก ๆ เหล่านั้น เพียงคุณส่งต่อหรือบริจาคให้พวกเขา ถ้า “เหลือ” เรา “ขอ” 3 องค์กรการกุศลรับบริจาคสิ่งของที่คุณไม่ได้ใช้แล้ว คุณสามารถบริจาคสิ่งของต่าง ๆ ให้กับ 3 องค์กรการกุศลนี้ได้อย่างมั่นใจว่าของบริจาคจากน้ำใจของคุณจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างแน่นอน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ส่วนจะมีองค์กรไหนบ้างมาดูกัน องค์กรพัฒนาเอกชนที่มีโครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมมากมาย อาทิ ครูบ้านนอก ศูนย์ข้อมูลคนหาย กิจกรรมอ่านสร้างชาติ เป็นต้น และที่สำคัญมูลนิธิฯ มีโครงการรับบริจาคสิ่งของทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หนังสือ เครื่องเขียน อุปกรณ์การแพทย์ ผ้าอ้อม คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ  ของที่รับบริจาคมาแล้วอยู่ในสภาพดีใช้งานได้จะนำไปส่งต่อให้กับผู้ยากไร้ ส่วนของที่ชำรุดจะนำไปซ่อมแซมแล้วนำกลับมาขายในราคาถูกเพื่อระดมเงินเข้ามูลนิธิฯ เป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมต่าง ๆ ต่อไป วิธีบริจาคมีหลายทางทั้งไปบริจาคด้วยตัวเองที่สำนักงานมูลนิธิฯ ซอยวิภาวดี 62 (แยก 4-7) หรือจะส่งเป็นพัสดุไป แต่ถ้าสิ่งของบริจาคของคุณมีจำนวนเยอะมาก ๆ มูลนิธิฯ มีบริการไปรับของถึงที่เลย ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ mirror.or.th “คุณไม่ใช้ เราขอ” เป็นสโลแกนประจำโครงการรับบริจาคสิ่งของเหลือใช้ของมูลนิธิฯ ที่ดำเนินการโดย พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วที่พวกเราคุ้นเคยนั่นเอง มูลนิธิสวนแก้วเป็นอีกองค์กรที่มีกิจกรรมเพื่อสังคมดี ๆ มากมาย โดยเน้นทางด้านธรรมะตามแบบอย่างที่พระคุณเจ้า พระพยอม ได้เทศน์สั่งสอนมา โดยรูปแบบและแนวคิดมาจากแรกเริ่มนั้น หลวงพ่อต้องการสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในละแวกวัดสวนแก้ว โดยเอาสิ่งของเหลือใช้มาซ่อมแซม สร้างใหม่ เอาเศษไม้มาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้แล้วจำหน่ายเป็นรายได้กับชาวบ้าน จากนั้นเมื่อหลวงพ่อเริ่มเป็นที่รู้จักในสังคมประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาต่างทยอยนำของมาบริจาคที่วัดมากขึ้น ๆ จนกลายเป็นรูปแบบการบริหารจัดการแบบมูลนิธิฯ ใครมีของเหลือใช้สามารถนำไปบริจาคได้ที่มูลนิธิสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี อยู่ติดกับวัดสวนแก้วเลย หรือของเยอะจะให้เจ้าหน้าที่มารับที่บ้านก็ได้เช่นกัน ติดต่อสอบถามได้ที่ kanlayano.org ร้านปันกันอยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิยุวพัฒน์ ดำเนินกิจกรรมระดมทุนในรูปแบบของธุรกิจเพื่อสังคม ด้วยความเชื่อที่ว่า “สังคมจะดีได้ ถ้าทุกคนแบ่งปัน” ร้านปันกันที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าหลายคนอาจจะเคยเดินผ่าน เป็นอีกที่ซึ่งรับบริจาคสิ่งของสภาพดีเพื่อคัดกรองแล้วนำมาจำหน่ายต่อและนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าทั้งหมดมอบเป็นทุนการศึกษากับเด็กขาดโอกาสที่มูลนิธิยุวพัฒน์ดูแลอยู่ ปัจจุบันร้านปันกันมีถึง 17…

ทิชชูเป็นของใช้ที่หลายคนไม่ได้สังเกตเรื่องประเภทสักเท่าไหร่ ซึ่งปกติเราจะเลือกที่ความหนาบาง รวมไปถึงความยืดหยุ่น เพื่อให้ทุกคนเลือกใช้ได้ถูกต้องเราไปดูพร้อม ๆ กันว่าของใช้อเนกประสงค์ชิ้นนี้มีกี่ประเภทและการใช้งานอย่างไร 1.กระดาษชำระหรือที่เรียกกันว่ากระดาษเช็ดก้น ซึ่งมักจะใช้ในห้องน้ำเท่านั้น ด้วยความที่ทิชชูประเภทนี้ทำมาจากเยื่อบริสุทธิ์จากต้นไม้ เมื่อมีการทิ้งเศษทิชชูที่ใช้แล้วลงในชักโครกจะไม่สร้างปัญหาเรื่องอุดตัน เพราะย่อยสลายง่าย มีทั้งแบบสีขาวและสีอื่น ๆ หลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่  การใช้งาน : ใช้หลังขับถ่าย เพื่อเช็ดทำความสะอาดนั้นเอง โดยกระดาษชำระมี 2 ประเภท 2.กระดาษทิชชูสำหรับเช็ดหน้า เป็นของใช้อเนกประสงค์ที่มีความสะดวก สามารถใช้ซับใบหน้าได้แบบไม่ต้องพกผ้าเช็ดหน้า ใช้แล้วสามารถทิ้งได้เลย ซึ่งจะมีลักษณะจะเป็นแผ่นหนา 2 ชั้นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเนื้อนุ่ม ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ซึ่งจะอยู่ในแพ็กเกจจิ้งกล่องกระดาษสีเหลี่ยม หยิบใช้ง่ายแบบไม่ต้องฉีกเหมือนทิชชูม้วน  การใช้งาน : ใช้ซับใบหน้า 3.กระดาษทิชชูสำหรับเช็ดปาก นิยมใช้นภัตาคาร ร้านอาหารหรือโรงแรม เนื้อสัมผัสจะมีความนุ่มใกล้เคียงกับกระดาษทิชชูสำหรับเช็ดหน้า ซึ่งจะใช้สำหรับเช็ดปากเลาทานอาหารนั้นเอง โดยจะมี 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้ การใช้งาน : ใช้เช็ดปาก 4.กระดาษเช็ดมือ (Hand towel) หากสังเกตจะพบว่าทิชชูประเภทนี้มักมีไว้บริการในห้องน้ำสาธารณะ อาทิ โรงแรม โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้า โดยจะถูกติดไว้ในตำแหน่งผนังข้าง ๆ เมื่อล้างมือเสร็จ สามารถดึงออกมาเช็ดมือได้เลย คุณสมบัติมีความเหนียว นุ่ม ไม่เปื่อยยุ่ยแม้จะถูกน้ำก็ตาม ถือว่าตอบสนองการใช้งานได้ดี   การใช้งาน : ใช้เช็ดมือโดยเฉพาะ 5.กระดาษทิชชูอเนกประสงค์ ใช้ในการซับความมันของอาหาร กรรมวิธีในการผลิตจึงมีความสะอาดกว่าทิชชูทั่วไป แต่สีอาจจะไม่ขาวเท่าประเภทอื่น ทำมาจากเยื่อบริสุทธิ์ 100 %  ไม่ผ่านกระบวนการฟอกสีขาว มีความหนามาก   การใช้งาน : ใช้ซับความมันในอาหารทอดโดยเฉพาะ

เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เพื่อนจึงถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญในช่วงชีวิตของมนุษย์เราอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับช่วงวัยรุ่น วัยรุ่นจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนค่อนข้างมาก การเลือกคบเพื่อนจึงเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนชีวิตวัยรุ่นได้เลยทีเดียว สำหรับวัยรุ่นเพื่อนก็เหมือนโลกทั้งใบ ความคิด การกระทำ การตัดสินใจ และอีกหลายๆ เรื่อง มักจะได้รับอิทธิพลจากเพื่อนที่พวกเขาคบหา ดังนั้นเพื่อนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เราลองมาดูลักษณะของเพื่อนที่เราไม่ควรคบกันดีกว่า เพื่อที่ว่าเราจะได้หลีกเลี่ยง และไม่ต้องได้รับอิทธิพลที่ไม่ดีจากเพื่อนที่ไม่น่าคบไปด้วย ความหมายของเพื่อนคืออะไร เพื่อน ก็คือ ผู้ที่รักใคร่ชอบพอ คิดดี ทำดีต่อกัน และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แต่ถ้าแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ เพื่อนก็มีเพียงแค่ เพื่อนดี หรือ เพื่อนไม่ดีเท่านั้น จำไว้ว่าเพื่อนมีผลต่อความเจริญก้าวหน้า และความเสื่อมถอยของชีวิตคนเราเป็นอย่างมาก  เพื่อนแบบไหนที่เราไม่ควรคบ ดังนั้นเพื่อให้เราสามารถกลั่นกรองคบหาเพื่อนที่ดีได้ เราจึงควรหลีกเลี่ยงคนที่มีนิสัยเหล่านี้ โดยไม่คบหาเป็นเพื่อน อันได้แก่ 1. เพื่อนที่พาเพื่อนไปทำเรื่องไม่ดี ในช่วงวัยรุ่น ทุกคนก็อาจจะอยากรู้อยากลอง แต่ถ้าหากเราเจอเพื่อนที่ชวนทำแต่เรื่องผิดบาปตลอดเวลา เล่นพนัน อบายมุข ไม่คิดจะชวนไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เลย ไม่สนใจผิดชอบชั่วดี ห้ามก็ไม่ฟัง เช่นนี้ควรจะต้องหลีกเลี่ยงออกมาให้เร็วที่สุด 2. คนที่ไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเอาแต่ใจตัวเอง คนเราในบางครั้งบางเวลา สิ่งที่เราคิดก็อาจจะไม่ถูกต้อง หากคนรอบข้างตักเตือนสติด้วยความหวังดี ก็ควรรับฟัง แต่หากว่าเราเจอคนที่ไม่เคยรับฟังใคร ไม่เปิดใจ เอาแต่ความคิดเห็นตัวเองเป็นที่ตั้งอย่างเดียว ในที่สุดเราก็จะอึดอัดกับความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ และในระยะยาวเราก็จะไม่มีความสุข คนเช่นนี้ ก็ควรจะหลีกเลี่ยงเช่นกัน 3. คนที่เอาแต่ติฉินนินทาผู้อื่น จริงอยู่ว่า ในยามที่เรารวมตัวกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะต้องมีการพูดถึงคนอื่น หรือเม้าท์มอยกันอยู่บ้าง แต่ถ้าเราเจอคนที่ไม่เคยพูดเรื่องสร้างสรรค์บ้างเลย เอาแต่ติฉินนินทาผู้อื่นล้วนๆ คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ดี ว่าลับหลังผู้อื่นอยู่ทั่วไป มีดีแค่ตนเอง เช่นนี้แล้ว จำไว้ว่าคนลักษณะนี้ต้องหลีกเลี่ยงให้ไกล หากว่าเราไม่อยู่ในวงสนทนา เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นเหยื่อของการถูกนินทาไม่ต่างกัน การจะเลือกคบใครคนหนึ่งนั้น คุณควรจะต้องสังเกต และศึกษานิสัยกันและกันมากพอสมควร คุณสามารถเลือกคบเพื่อนที่ดี และเพื่อนที่ไม่ดีได้เสมอ คนไม่จริงใจที่เข้าข่ายลักษณะที่นำเสนอในข้างต้น มักจะเป็นคนที่นำพาความเดือดร้อนมาให้ผู้อื่นเสมอ คุณจะต้องหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด คุณไม่มีความจำเป็นจะต้องคบหาคนที่ไม่จริงใจเช่นนี้ ยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะเข้ามาเป็นเพื่อนดีๆ ในชีวิตของคุณ เพียงแค่คุณต้องมองพวกเขาให้ถ่องแท้แค่นั้นเอง

ใครที่อยากจะมีกีตาร์สักตัวมาทางนี้ กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีอัศจรรย์ จะเอาไว้หัดเล่นร้องเพลงเพื่อคลายเครียด หรือจะใช้ล้อมวงเล่นกับเพื่อนฝูงในงานสร้างสรรค์ ไปจนถึงไว้ขับกล่อมเพลงรักจีบสาว ๆ ก็ได้ทั้งนั้น วันนี้มีเคล็ดลับการเลือกซื้อกีตาร์ตัวแรกในชีวิตสำหรับมือใหม่ หรือจะเป็นการซื้อเพิ่มอีกเพื่อวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่าง ก็สามารถนำเงื่อนไขเหล่านี้มาพิจารณาประกอบการตัดสินใจกันได้ เลือกประเภทของกีตาร์ให้ถูก กีตาร์แบ่งกว้าง ๆ ได้ 3 ประเภท คือ  นอกจาก 3 ประเภทนี้แล้วยังมีกีตาร์โปร่งที่มีภาคไฟฟ้าในตัว เรียกกันว่า กีตาร์โปร่งไฟฟ้า คือเราสามารถเล่นกีตาร์โปร่งโดยเสียงไปออกลำโพงได้ เราจะเห็นกันบ่อย ๆ ตามร้านอาหารที่มีนักดนตรีเล่น 1-2 คน ไม่ได้เล่นเป็นวงดนตรี นักดนตรีสไตล์นี้ก็จะเล่นกีตาร์โปร่งที่มีภาคไฟฟ้า ดังนั้นหากเรามีความประสงค์จะเล่นลักษณะใด ก็เลือกซื้อให้ถูกกับรูปแบบนั้น กีตาร์ที่ดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป  งบประมาณหรือราคากีตาร์เป็นเงื่อนไขสำคัญของการเลือกซื้อ มีงบประมาณสูงเท่าไรก็จะได้ของที่มีคุณภาพสูงขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวลไปให้มาก เพราะเดี๋ยวนี้มีกีตาร์ในระดับราคาเริ่มต้นที่คุณภาพดี ราคาไม่ได้แรง เฉลี่ยตกตัวละ 1,000-3,000บาทอยู่มากมาย เราสามารถเลือกซื้อกีตาร์ในระดับราคานี้เอามาใช้เล่นฝึกหัดได้ ไว้เล่นเก่งขึ้นแล้วค่อยขยับไปหารุ่นที่ราคาสูงขึ้นก็ได้ ดูรีวิวหาข้อมูลได้ แต่ยังไง ๆ ต้องไปลองเล่นเองกับมือ กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่ทำมาจากไม้ ซึ่งนั่นทำให้กีตาร์แต่ละตัวเสียงไม่เหมือนกัน แม้จะแบรนด์เดียวกัน รุ่นเดียวกัน เสียงอาจจะใกล้เคียงกันแต่ก็ไม่เหมือนกัน รวมถึงรูปทรงของตัวกีตาร์ น้ำหนัก ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัย ฉะนั้นการเลือกกีตาร์ที่เหมาะกับตัวเรา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไปลองเล่น ลองจับของจริงด้วยตัวเอง จับแล้วเราถนัดไหม ชอบเสียงแบบนี้หรือไม่ เวลาไปซื้อสามารถพาผู้เชี่ยวชาญไปเพื่อให้คำแนะนำได้ แต่การตัดสินใจควรจะขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของตัวเจ้าของหรือตัวผู้เล่นเอง อยากเก่งก็ต้องหมั่นฝึก  สำหรับใครที่อยากเล่นกีตาร์เก่ง ไม่มีทางลัด หากอยากเล่นเก่งก็ต้องฝึกฝนบ่อย ๆ อยากจะเก่งมากแค่ไหนก็ต้องฝึกฝนมากเท่านั้น ความสม่ำเสมอต้นเสมอปลายในการฝึกฝนจะช่วยให้คุณมีฝีมือในการเล่นกีตาร์มืออาชีพ

การนอนหลับเป็นสิ่งที่สําคัญมากสําหรับการคงรักษาร่างกายของเราให้มีสุขภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลา  การนอนหลับไม่เพียงพอนั้น ย่อมจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลง อีกทั้งในระยะยาวจะเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อภาวะการเกิดปัญหาด้านสุขภาพที่มากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนอนหลับไม่เพียงพอจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเบาหวาน การนอนหลับอย่างน้อยห้าชั่วโมงจะช่วยลดปัญหาสุขภาพเรื้อรัง การนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน ช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้กระปรี้กระเปร่า การนอนหลับยังช่วยให้สมองของคนเราประมวลผลความทรงจำในระหว่างวัน และเปลี่ยนข้อมูลบางส่วนเป็นความจำระยะยาว การนอนเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของความคิด เช่น สมาธิ การคำนวณ การตัดสินใจ เชาวน์ปัญญาและอื่นๆ การนอนจะส่งผลดีต่ออารมณ์ และเพิ่มความสามารถในการเผาผลาญอาหาร นอกจากนี้การนอนหลับยังเป็นเสมือนเป็นโอกาสให้สมองกำจัดของเสียออกไปอีกด้วย เรามาดูข้อเท็จจริงต่างๆ ของการนอนหลับกัน 1. เราต้องนอนมากแค่ไหน?  ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนําให้คนในวัยผู้ใหญ่ ควรจะนอนหลับให้ได้อย่างน้อยเจ็ดชั่วโมงต่อคืน หรืออย่างน้อยไม่ต่ำกว่าห้าชั่วโมงต่อคืน 2. การนอนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำรงชีวิต  คงปฎิเสธไม่ได้ว่า คนทั่วไปส่วนใหญ่จะใช้เวลานอนโดยเฉลี่ยถึงหนึ่งในสามของช่วงเวลาในชีวิตทั้งหมด  แต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการนอนเท่าที่ควร บางคนยอมอดนอนเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ โดยที่เขาเหล่านั้นกลับไม่รู้เลยว่า การนอนไม่เพียงพอนั้น จะส่งผลให้ให้ประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆ ลดลง เช่น สมาธิสั้นลง หรือความจำที่แย่ลง 3. เคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้คุณสามารถนอนหลับที่ได้ดีขึ้น แนวทางที่จะช่วยทําให้คุณสามารถนอนหลับที่ได้ดีขึ้น ได้แก่ ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าในระหว่างวัน โดยการทำตัวเองให้ยุ่งและกระฉับกระเฉงในระหว่างวัน แต่ลดกิจกรรมต่างๆ ให้ช้าลงในช่วงก่อนนอน หลีกเลี่ยงการงีบหลับในเวลากลางวัน สร้างกิจนิสัยก่อนนอนที่ดี เช่น จัดห้องนอนให้ผ่อนคลาย และเอื้อต่อการนอน และไม่มีสิ่งรบกวนต่างๆ เช่น ไม่เล่นสมาร์ทโฟนบนเตียง ลดหรือกําจัดคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ใกล้เวลาเข้านอน นอกจากนั้น จงอย่ากินอิ่มเกินไปสี่ชั่วโมงก่อนเข้านอน และอย่ากินสองชั่วโมงก่อนเข้านอน หากคุณหิว คุณสามารถดื่มนมหรือผลไม้ได้ เพราะการย่อยอาหารจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการนอนหลับของเราด้วยเช่นกัน ตั้งเป้าที่จะนอนหลับเจ็ดถึงแปดชั่วโมงทุกคืน ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้คุณเองสมารถนอนหลับสบาย และมีสุขอนามัยในการนอนหลับที่ดี และยังช่วยลดปัญหาสุขภาพเรื้อรังได้อีกด้วย